โดนแล้ว “นักร้องคนดัง” ตบทรัพย์ ? “อธิบดีกรมการข้าว” งานนี้ “พี่ศรี” จะรอดไหม

จากกรณี "นักร้องคนดัง" ศรีสุวรรณ ถูกจับ คดีเรียกรับเงิน "อธิบดีกรมการข้าว" ฟาก ตำรวจ ยัน หลักฐานแน่น ขณะที่ ทนายเดชา ฟาดยับ พฤติกรรมเยี่ยงโจร งานนี้ "พี่ศรี" จะรอดไหม !?

 

 

          วันที่ 29 ม.ค. 2567 พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เหตุการณ์วันจับกุม นายศรีสุวรรณ จรรยา ตนเป็นชุดที่เข้าไปจับกุม พร้อมกับภรรยาของท่านอธิบดีกรมการข้าว โดยช่วงแรกมีการเจรจาวางเงิน 500,000 บาทที่หน้าประตูบ้านนายศรีสุวรรณ เป็นการล่อซื้อ ซึ่งภรรยาท่านอธิบดี ท่านก็ยอมวาง จากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงถุงเงินก็หายไป จึงได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ และใช้หมายค้น

 

          ปรากฎว่าช่วงที่ล้อมบ้านไว้ นายศรีสุวรรณก็วิ่งหนีเข้าไปในบ้าน จึงสั่งกำลังเข้าชาร์จเข้าไปในบ้าน ก็มาพบ นายศรีสุวรรณ อยู่ในห้องน้ำบ้าน จึงเรียกให้ออกมา และถามว่าเงิน 500,000 ไปไหน เขาก็บอกว่า โยนไปข้างบ้านแล้ว จึงตามไปตรวจเพิ่มก็พบเงิน แต่เงินอยู่ในถุงดำ ซึ่งมันไม่ตรงกับตอนเอาไปแขวนไว้ที่บ้านเขาซึ่งใช้กระเป๋า ลักษณะเหมือนเขาจะเอาเงินใส่ถุงดำไปทิ้ง เพื่อทำลายหลักฐาน ขณะที่นายศรีสุวรรณ ก็อ้างว่ามีคนเอาเงินมาให้โดยที่เขาไม่ได้เรียกรับ เป็นการยัดเยียดให้เขา 

 

          เคสนี้ ตนไม่กลัวการถูกฟ้องร้องกลับ เพราะเราทำตามหน้าที่ ตามพยานหลักฐานซึ่งมีค่อนข้างแน่นหนา  และตนกลัวการที่ผู้เสียหาย ซึ่งก็คือ อธิบดีกรมการข้าว ไม่ได้รับความเป็นธรรมมากกว่า โดยท่านได้รับความเดือดร้อนไม่เป็นธรรม ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง จากกลุ่มมิจฉฉาชีพกลุ่มหนึ่งมาร้องเรียนท่านเกี่ยวกับเรื่องทุจริต ทำให้ท่านอับอายอย่างมาก ซึ่งท่านยืนยันว่าท่านไม่ได้กระทำอะไรผิด และได้มาขอให้ตำรวจคืนความเป็นธรรมให้ท่าน นอกจากนี้ ผู้ต้องสงสัยยังมีอีก 2-3 ราย เรากำลังดำเนินการหาพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดเพิ่ม ขณะที่ภรรยาของ นายศรีสุวรรณ จะมีส่วนเกี่ยวไหม ต้องตรวจสอบเจตนาก่อน เพราะ วันที่เกิดเหตุ นายศรีสุวรรณ เป็นคนให้ภรรยาไปหยิบเงิน ขณะที่ บุคคลที่พา ท่านอธิบดีกรมการข้าว และภรรยา ไปพบกับนายศรีสุวรรณ บุคคลนี้จะมีส่วนเกี่ยวด้วยไหม ตอนนี้ยัง 50/50 เช่นกัน 

 

           อย่างไรก็ตาม กลุ่มกลุ่มนี้ ทำงานกันเหมือนองกรณ์อาชญากรรม มีการแบ่งงาน แบ่งหน้าที่กันทำ มีทั้งคนรวบรวมข้อมูล คนร้องเรียน คนคอบเคลียร์ คนรับเงิน ซึ่งมีบัญชีม้าประกอบด้วย ต้องขอเวลาให้ตำรวจทำหน้าที่หาพยานหลักฐานสักพักก่อน ทั้งนี้ ตนอยากขอให้กลุ่มคนที่หากินกับการร้องเรียน หยุดเสียเถอะ อย่าทำร้ายสังคม ข้าราชการ เลย ถ้าไม่หยุด ไม่วันไหนก็วันหนึ่ง ก็ต้องเจอตนแน่

 

 

            ฟาก เดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ เผยว่า ไทม์ไลน์เรื่องนี้มันเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2566 มีลูกน้องของรัฐมนตรีคนหนึ่ง ไปร้องเรียนอธิบดี เหมือนพยายามจะทำให้อธิบดีพ้นจากเก้าและเอาคนของตัวเองมาเสียบแทน จึงได้สร้างเรื่องร้องเรียนขึ้นมา ซึ่งท่านอธิบดีก็โดนเรียกไปชี้แจง ก็ชี้แจงผ่านแล้ว จากนั้นก็เริ่มมีขบวนการของนายศรีสุวรรณ พร้อมกับ นาย จ พูดจาข่มขู่ต่าง ๆ  จนนำมาสู่การเรียกเงินต่อรองกันตั้งแต่ 3 ล้าบาท จนเหลือ 1.5 ล้านบาท แต่ท่านก็ไม่ได้เต็มใจจ่าย ซึ่งแสดงได้ว่าท่านไม่ได้ทุจริตจริง ไม่ได้มีเจตนาจะจ่ายเงินเพื่อปกปิดความผิด 

 

           ส่วนกระแสข่าวที่มีนักการเมือง โทรไปหาอธิบดีกรมการข้าวให้เบรกการทำเรื่องนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง โดยที่เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีที่กำลังจะย้ายพรรคไปอยู่พรรคการเมืองใหญ่มาก สาเหตุที่เขาต้องโทรมาแบบนี้ เพราะกลัวเรื่องราวสาวไปถึงเขา เนื่องจากคนที่โดนอยู่ตอนนี้ก็เป็นลูกน้องเขา 

 

           สำหรับคดีนี้ นายศรีสุวรรณ มีโอกาสรอดยาก แค่ผู้เสียหายเขาไปยืนยันว่าคุณไปเรียกเงินเขาก็ติดคุกแล้ว ไม่ต้องส่งมอบเงิน อันนี้ตำรวจเขามีหลักฐานเขาแน่นหนา ทั้งคลิป แชต เส้นทางการเงิน ล่อซื้อ มีที่ไหนเอาเงิน 500,000 ไปทิ้ง แสดงว่าคุณรู้อยู่แก่ใจแล้วว่ามันเป็นเงินสกปรก พฤติการณ์ของ นายศรีสุวรรณ เรียกได้เลยว่าเยี่ยงโจร เอาเทวดามาว่าความก็ไม่รอด 

 

 

           สส.อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดราชบุรี เขต 4 และโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ เผยว่า คลิปเสียงหลุดของ เจ๋ง ดอกจิก ตนได้ฟังแล้ว ตอนนี้ยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าเป็นเจ้าตัวจริงหรือตัวปลอม ตนคิดว่าปัจจุบันมันมีเทคโนโลยีหลายอย่าง ให้เป็นหน้าที่ของตำรวจเป็นคนฟันธงดีกว่า นอกจากนี้ จากการตรวจสอบฝ่ายทะเบียนของพรรค พบว่า เจ๋ง ดอกจิก ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ซึ่งได้ยกเลิกการแต่งตั้งตำแหน่งตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2566 และ พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์ ได้มีการยกเลิกแต่งตั้งตำแหน่งไปแล้วตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ส่วนการปลดออกก็ไม่เป็นการช่วยเหลือให้ได้รับโทษน้อยลง เพราะ หากการกระทำผิดของเขาเกิดก่อนที่จะโดนปลด เขาก็จะได้รับโทษเท่ากับตอนเป็นราชการ 

 

           อย่างไรก็ตาม ทางพรรครวมไทยสร้างชาติ เราจะไม่ปกป้องคนผิด และเราจะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่ ไม่ปกป้อง ซึ่งทางหัวหน้าพรรค และเลขาฯพรรค ออกมาบอกชัดเจนว่าทางพรรคจะไม่เข้าไปแทรกแซงในกระบวนการยุติธรรม

ชมผ่าน YouTube ได้ที่ https://youtu.be/rBvRhr137B0?feature=shared