กำลังเป็นที่ถกเถียงกันในสังคม กับประเด็น สาว ป.เอก พลัดตกตึก 6 ชั้น หลักถูกชายร่วมหอพักเคาะประตูข่มขู่ จนเกิดตกใจกลัว ฟาก "ทนายเดชา" ยืนยัน เอาผิดได้แน่นอน !?
จากกรณี น.ส.อาภาภรณ์ สีชำนาญ หรือเฟิร์น นิสิตปริญญาเอก ม.เกษตรศาสตร์ ผู้อาศัยในตึกเดียวกัน เมาอาละวาดหนักทุบประตูห้อง ส่งเสียง ข่มขู่ดัง จนเฟิร์นเกิดอาการกลัว ต้องปีนระเบียงห้องหนี แต่กลับพลัดตกลงมาจากตึก 6 ชั้น ทำให้พ่อคาใจ หวั่นจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เกรงผู้ก่อเหตุจะได้รับโทษน้อยเกินไป
วันที่ 18 ธ.ค. 2566 สมชาย สีชำนาญ พ่อผู้เสียชีวิต ออกมาเล่าเรื่องราวผ่านรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7HD กด 35 ดำเนินรายการโดย ทิน โชคกมลกิจ เล่าว่า เช้ามืดของวันที่ 13 ธ.ค. 2566 มีคนมาเคาะประตูห้องพักของลูกสาว มึนเมามาอาละวาด เหมือนจะพังเข้ามา ทำให้ลูกสาวตกใจกลัว และได้แชตขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ทว่าเพื่อนก็กลัวผู้ชายคนดังกล่าวมีอาวุธ จึงอาสาจะลงไปตามรปภ. ทว่าระหว่างนั้น ลูกสาวตนกลัวมาก ก็ได้ปีนออกจากห้องทางระเบียง หวังจะหนีชายคนดังกล่าว สุดท้ายก็พลัดตกลงมาจากห้องพักชั้น 6 ลงมาเสียชีวิต
ตนติดใจกับเรื่องนี้มาก เพราะถ้าไม่มีคนมาเคาะห้อง ลูกตนคงไม่เสียชีวิต ซึ่งตนมาทราบภายหลังว่าต้นสายปลายเหตุมาจากเรื่องที่จอดรถ โดยที่เขาอ้างว่าลูกตนไปจอดทับที่่จอดของเขา ทว่า มันไม่น่าจะเป็นเหตุให้มาอาละวาด เคาะประตูโวยวายขนาดนั้น ก็แค่ขยับรถออกแล้วเอาไปจอดแทนก็ได้ ขณะเดียวกัน คนที่บอกกับชายคนนี้่ว่าเป็นรถของลูกสาว คือ แม่บ้าน ซึ่งแม่บ้านก็บอกไปแบบไม่แน่ใจ แต่เขากลับขึ้นมาโวยวายเคาะประตูโดยไม่ถามอะไรเลย และนอกจากนั้น รถคันดังกล่าวก็ไม่ใช่ของลูกสาวด้วย
ทั้งนี้ ตนได้คุยกับแม่บ้าน เขายืนยันว่าผู้ก่อเหตุเดินขึ้นไปห้องลูกสาวโดยที่ไม่มีอาวุธ ทำให้ตนสงสัยว่าเขามั่นใจได้อย่างไร ถึงได้บอกเลขห้อง อย่างไรก็ตาม ตนจะพยายามเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกัน คนที่คิดว่าลูกตนปีนออกมาเอง ตนอยากจะบอกว่า ถ้าไม่มีบุคคลคนนี้มาทำให้ลูกตนกลัวตกใจ เขาก็คงนอนหลับสบายไปแล้ว และถ้าลูกไม่ปีนหนี แล้วเขาเข้ามาได้จนมาทำร้ายลูกตน จะทำอย่างไร
ฟาก นิรันดร์ เกแง้ว ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กล่าวว่า เคสนี้ พ่อผู้เสียชีวิต เขาติดต่อเพจสายไหมต้องรอดมาขอความช่วยเหลือ เพราะ เขารู้สึกว่า จากบันทึกแจ้งความในข้อกล่าวหาของผู้ที่เคาะประตูนั้นมีโทษเบาเกินไป อาทิ ข่มขู่ทำให้ตกใจกลัว เสียงดังรบกวน บุกรุกในเคหสถาน ซึ่งในความคิดของพ่อแม่ผู้เสียชีวิต เขาอยากให้มีโทษมากกว่านี้ ทำให้พ่อเขาออกมาร้องขอความเป็นธรรม
ทั้งนี้ เหตุการณ์วันที่เกิดเหตุ เสียงนั้นดังมาก เพื่อนของผู้เสียชีวิตอยู่ในห้องพักชั้น 4 ยังได้ยิน ทั้งที่เหตุการณ์เกิดที่ชั้น 6 และส่วนตัวตน คิดว่าน้องผู้เสียชีวิตน่าจะจวนตัวแล้ว ถึงได้ตัดสินใจปีนระเบียงหนีจนพลัดตกลงมา เพราะ ถ้าผู้ก่อเหตุเข้ามามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ อย่างไรก็ตาม ทีมสายไหมต้องรอด ให้คำมั่นว่าจะอยู่เคียงข้างพ่อแม่ผู้เสียชีวิต และจะช่วยเอาเรื่องให้ถึงที่สุด
ด้าน เดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ กล่าวว่า เวลาเราจะฆ่าใครตาย แม้กระทั่งคำพูด ก็ทำให้ผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาแล้ว ส่วนในเคสนี้ เราต้องดูว่าการที่น้องผู้เสียชีวิต ที่เขาตายมันเป็นผลมาจากการกกระทำของใคร ต้องดูว่าถ้าผู้ก่อเหตุไม่มาเคาะประตู มาข่มขู่เสียงดัง จะทำให้เขาตายหรือไม่ ทว่า ผู้ก่อเหตุเขามาโวยวายเสียงดัง จนทำให้น้องผู้เสียชีวิตเขากลัวจนต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ดังที่เห็นจากในแชต จนนำไปสู่การปีนหนีออกทางระเบียง ส่วนคำพูดของผู้ก่อเหตุก็จะออกไปทางชวนหาเรื่องเสียมากกว่า ไม่มีคำไหนบอกให้ช่วยเลื่อนรถเลย
อย่างไรก็ตาม สามารถเอาผิดคนที่มาเคาะประตูได้ ในข้อหา ฆ่าคนตายโดยเล็งเห็นผล เนื่องจากพฤติกรรมต่าง ๆ ของเขาอาจทำให้ผู้ตายปีนออกมาข้างหลัง จนพลัดตกตึก สามารถเทียบเคียงจากคำพิพากษาเก่า ๆ ได้ ในคดีเลขที่ 4563/43 โดยในคดีนี้ จำเลยเดินถอดกางเกงเดินไปจะข่มขืนผู้ตาย ขณะที่ผู้ตายก็ยืนพิงระเบียงอาคารสูงอยู่ ซึ่งเมื่อผู้ตายเห็นก็กลัว จนพลัดตกตึกลงงมาเสียชีวิต
ติดตาม รายการข่าวเย็นประเด็นร้อน ช่วง "ถกไม่เถียง" ดำเนินรายการโดย “ทิน โชคกมลกิจ” ได้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.30 - 18.00 น. ทางช่อง 7HD กด 35